ข่า
วแจก "สธ. ส่ง อสม.ทูตไอโอดีนและทีมหมอครอบครัว ช่วยประชาชนสร้างหมู่บ้านไอโอดีน 100 % ในปี 2560"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
25
มิถุนายน
2558
ข่าวแจก "สธ. ส่ง อสม.ทูตไอโอดีนและทีมหมอครอบครัว ช่วยประชาชนสร้างหมู่บ้านไอโอดีน 100 % ในปี 2560"
กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กไทยเสี่ยงไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีภาวะปัญญาอ่อนจากการขาดสารไอโอดีน ส่งเสริมการใช้เกลือ/น้ำปลา/ซีอิ๊วเสริมไอโอดีนปรุงประกอบอาหาร รวมทั้งจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีนแก่หญิงตั้งครรภ์และให้นมลูก 6 เดือน พร้อมตั้งเป้าหมู่บ้านไอโอดีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2560 ให้ อสม.เป็นทูตไอโอดีนและทีมหมอครอบครัวร่วมกับประชาชนดูแลพื้นที่ตนเองไม่ให้ขาดสารไอโอดีน วันนี้(25 มิถุนายน 2558) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม.
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดประชุม "หมู่บ้านไอโอดีนทั่วไทย เทิดไท้เจ้าฟ้านักโภชนาการ: ก้าวผ่านความท้าทายสู่ความยั่งยืน เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ 25 มิถุนายน? และให้สัมภาษณ์ว่า ทุกประเทศให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพอนามัยแม่และเด็ก ตามปฏิญญาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ และวาระสุขภาพ หลังปี 2558 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะการพัฒนาสุขภาพแม่และเด็ก ที่เป็นปัญหาขณะนี้คือการขาดสารไอโอดีน ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกายในทุกกลุ่มวัย ช่วยการสร้างเซลล์สมองและระบบประสาทของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ถ้าแม่ขาดสารไอโอดีนจะทำให้เซลล์สมองเด็กสร้างได้ไม่เต็มที่ ระดับไอคิวจะลดลงได้ถึง 10-15 จุด หากขาดรุนแรงอาจทำให้ลูกที่เกิดมามีภาวะปัญญาอ่อนได้ ส่วนในประชาชนทั่วไปทำให้ขาดความกระปรี้กระเปร่า ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย
ข้อมูลจากการสำรวจไอคิวเด็กไทย ปี 2557 ของกรมสุขภาพจิต พบระดับไอคิวเด็กไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 93.1 จุด ลดลงจากปี 2554 อยู่ที่ 94 จุด และต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน คือ 100 จุด ข้อมูลจากกรมอนามัย ปี 2557 พบค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์ คือ 155.7 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ไม่ขาดสารไอโอดีน แต่อย่างไรก็ตามยังพบพื้นที่ที่ขาดสารไอโอดีนในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบมากที่สุด นอกจากนี้ยังคงพบครัวเรือนที่ไม่ใช้เกลือเสริมไอโอดีนถึงร้อยละ 8.4
เพื่อให้คนไทยได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม โดยมาตรการหลัก คือ เกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายสนับสนุนให้มีการผสมไอโอดีนในเกลือตามมาตรฐานคือ 20 - 40 มิลลิกรัมต่อเกลือ 1 กิโลกรัม ซึ่งปลอดภัยและมีต้นทุนต่ำเพียง 1.30 บาทต่อคนต่อปี ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้เกลือ น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลืองเติมไอโอดีนในปริมาณที่กำหนด สนับสนุนเครื่องผลิตเกลือเสริมไอโอดีนให้ผู้ประกอบการ 100 เครื่อง รวมทั้งมีมาตรการเสริม คือ การจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีน ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก ให้กับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน และหญิงให้นมลูกจนอายุลูก 6 เดือนหลังคลอด การเสริมไอโอดีนในน้ำดื่มในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมาตรการต่างๆเหล่านี้จะช่วยให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ทารก เด็กปฐมวัยและเด็กวัยเรียน ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคขาดสารไอโอดีน ได้ประมาณปีละ 14 ล้านคน
สำหรับการประชุมครั้งนี้มีภาครัฐ ภาคเอกชน ประธานและสมาชิกชมรมผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน 3 ภาค ผู้ประกอบการน้ำปลาเสริมไอโอดีน ผู้ประกอบการซีอิ๊วเสริมไอโอดีน ทูตไอโอดีนและตัวแทนศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เข้าร่วมกว่า 800 คน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ให้คนไทยได้รับไอโอดีนต่อเนื่องและเพียงพอ โดยผ่านกลไกการดำเนินงานชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน และพัฒนาให้เป็นชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2560 โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นทูตไอโอดีนและทีมหมอครอบครัวร่วมกับประชาชนดูแลพื้นที่ตนเองไม่ให้ขาดสารไอโอดีน
**************** 25 มิถุนายน 2558
กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กไทยเสี่ยงไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีภาวะปัญญาอ่อนจากการขาดสารไอโอดีน ส่งเสริมการใช้เกลือ/น้ำปลา/ซีอิ๊วเสริมไอโอดีนปรุงประกอบอาหาร รวมทั้งจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีนแก่หญิงตั้งครรภ์และให้นมลูก 6 เดือน พร้อมตั้งเป้าหมู่บ้านไอโอดีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2560 ให้ อสม.เป็นทูตไอโอดีนและทีมหมอครอบครัวร่วมกับประชาชนดูแลพื้นที่ตนเองไม่ให้ขาดสารไอโอดีน วันนี้(25 มิถุนายน 2558) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดประชุม หมู่บ้านไอโอดีนทั่วไทย เทิดไท้เจ้าฟ้านักโภชนาการ: ก้าวผ่านความท้าทายสู่ความยั่งยืน เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ 25 มิถุนายน และให้สัมภาษณ์ว่า ทุกประเทศให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพอนามัยแม่และเด็ก ตามปฏิญญาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ และวาระสุขภาพ หลังปี 2558 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะการพัฒนาสุขภาพแม่และเด็ก ที่เป็นปัญหาขณะนี้คือการขาดสารไอโอดีน ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกายในทุกกลุ่มวัย ช่วยการสร้างเซลล์สมองและระบบประสาทของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ถ้าแม่ขาดสารไอโอดีนจะทำให้เซลล์สมองเด็กสร้างได้ไม่เต็มที่ ระดับไอคิวจะลดลงได้ถึง 10-15 จุด หากขาดรุนแรงอาจทำให้ลูกที่เกิดมามีภาวะปัญญาอ่อนได้ ส่วนในประชาชนทั่วไปทำให้ขาดความกระปรี้กระเปร่า ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย ข้อมูลจากการสำรวจไอคิวเด็กไทย ปี 2557 ของกรมสุขภาพจิต พบระดับไอคิวเด็กไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 93.1 จุด ลดลงจากปี 2554 อยู่ที่ 94 จุด และต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน คือ 100 จุด ข้อมูลจากกรมอนามัย ปี 2557 พบค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์ คือ 155.7 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ไม่ขาดสารไอโอดีน แต่อย่างไรก็ตามยังพบพื้นที่ที่ขาดสารไอโอดีนในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบมากที่สุด นอกจากนี้ยังคงพบครัวเรือนที่ไม่ใช้เกลือเสริมไอโอดีนถึงร้อยละ 8.4 เพื่อให้คนไทยได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม โดยมาตรการหลัก คือ เกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายสนับสนุนให้มีการผสมไอโอดีนในเกลือตามมาตรฐานคือ 20 - 40 มิลลิกรัมต่อเกลือ 1 กิโลกรัม ซึ่งปลอดภัยและมีต้นทุนต่ำเพียง 1.30 บาทต่อคนต่อปี ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้เกลือ น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลืองเติมไอโอดีนในปริมาณที่กำหนด สนับสนุนเครื่องผลิตเกลือเสริมไอโอดีนให้ผู้ประกอบการ 100 เครื่อง รวมทั้งมีมาตรการเสริม คือ การจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีน ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก ให้กับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน และหญิงให้นมลูกจนอายุลูก 6 เดือนหลังคลอด การเสริมไอโอดีนในน้ำดื่มในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมาตรการต่างๆเหล่านี้จะช่วยให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ทารก เด็กปฐมวัยและเด็กวัยเรียน ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคขาดสารไอโอดีน ได้ประมาณปีละ 14 ล้านคน สำหรับการประชุมครั้งนี้มีภาครัฐ ภาคเอกชน ประธานและสมาชิกชมรมผู้ประกอบการเกลือเสริมไอโอดีน 3 ภาค ผู้ประกอบการน้ำปลาเสริมไอโอดีน ผู้ประกอบการซีอิ๊วเสริมไอโอดีน ทูตไอโอดีนและตัวแทนศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เข้าร่วมกว่า 800 คน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ให้คนไทยได้รับไอโอดีนต่อเนื่องและเพียงพอ โดยผ่านกลไกการดำเนินงานชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน และพัฒนาให้เป็นชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2560 โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นทูตไอโอดีนและทีมหมอครอบครัวร่วมกับประชาชนดูแลพื้นที่ตนเองไม่ให้ขาดสารไอโอดีน **************** 25 มิถุนายน 2558