คุณกำลังมองหาอะไร?

รมอนามัย เดินหน้าเพิ่มพื้นที่ดื่มนมฟลูออไรด์ ชูตรังจังหวัดแรกปี 57 เป้าหมายอนุบาล-ประถม 8 หมื่นคน

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

02.06.2557
0
0
แชร์
02
มิถุนายน
2557

กรมอนามัย เดินหน้าเพิ่มพื้นที่ดื่มนมฟลูออไรด์ ชูตรังจังหวัดแรกปี 57 เป้าหมายอนุบาล-ประถม 8 หมื่นคน

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขยายพื้นที่การดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์โดยในปีนี้เริ่มที่จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดแรก โดยมีเป้าหมายคือ นักเรียนชั้นอนุบาล และประถมศึกษาในจังหวัดตรัง จำนวน 80,000 คนได้ดื่มนมฟลูออไรด์ตั้งแต่เทอมแรก และเล็งขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อให้เด็กไทยมีสุขภาพฟันที่ดี
        ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ โดยในระยะแรกของการดำเนินงาน เด็กในกรุงเทพมหานครจะได้ดื่มนมฟลูออไรด์ต่อเนื่องเป็นเวลา ๕ ปี ร่วมกับการต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติ จะสามารถลดโรคฟันผุในฟันแท้ได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมฟลูออไรด์ถึงร้อยละ ๓๔.๔ และไม่พบผลเสียเรื่องฟันตกกระ ต่อมาได้ ขยาย ไปในส่วนภูมิภาค ๗ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สระแก้ว ชลบุรี กระบี่ และพัทลุง ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมามีเด็กกว่าหนึ่งล้านคน ได้ดื่มนมฟลูออไรด์ ที่ผลิตโดยโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา และโรงนมอื่นๆ รวม ๒๐ แห่งทั่วประเทศที่ได้รับอนุญาตการผลิตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
        ทันตแพทย์สุธา กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ได้ขยายโครงการไปยังจังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรก เพราะจากผลการสำรวจสภาวะ ทันตสุขภาพของจังหวัดตรังในปี 2556 พบว่า เด็กอายุ 3 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 53.4 เด็กอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 45.1 มีระดับฟลูออไรด์ในน้ำบริโภคของชุมชนน้อยกว่า 0.3 ส่วนในล้านส่วน และยังไม่มีการใช้ฟลูออไรด์เสริมในระดับชุมชน มีความเป็นไปได้ ในด้านการผลิต และจัดส่งนมฟลูออไรด์จากโรงนม 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) และสหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย จำกัด มีทันตบุคลากรในจังหวัดตรัง ร่วมดำเนินการ นอกจากนี้ จะขยายการดำเนินงานเพิ่มอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อให้เด็กในจังหวัดดังกล่าวได้ดื่มนมฟลูออไรด์ที่ส่งผลให้มีสุขภาพฟัน ที่ดี
        ทั้งนี้ นักเรียนชั้นอนุบาล และประถมศึกษาในจังหวัดตรัง จำนวน 80,000 คน จะได้ดื่มนมฟลูออไรด์ตั้งแต่เทอมแรกของ ปีการศึกษา 2557 พร้อมกับการติดตาม กำกับคุณภาพและความปลอดภัยโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง และสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัยเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ นอกจากนี้ กรมอนามัยยังมีนโยบายสนับสนุนการดื่มนมพาสเจอไรซ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็ก พร้อมกับส่งเสริมการดื่มนมฟลูออไรด์เพื่อลดโรคฟันผุ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาโครงการนมฟลูออไรด์ เพื่อลดโรคฟันผุ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาโครงการนมฟลูออไรด์ประเทศต่าง ๆ อาทิเช่น ประเทศเกาหลี มาเลเซีย บรูไน และมองโกเลีย โดยมีโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดาเป็นหน่วยงานฝึกอบรมด้านเทคนิคการผลิตนมฟลูออไรด์ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย?  ทันตแพทย์สุธา กล่าว
        รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทย ได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2543 ภายใต้การสนับสนุนด้านวิชาการจากองค์การอนามัยโลก และการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากมูลนิธิ The Borrow Foundation ประเทศอังกฤษ ในรูปแบบของการเสริมฟลูออไรด์ผ่านทางนมซึ่งอยู่ในโครงการอาหารเสริม(นม) โรงเรียนเพื่อป้องกันฟันผุ โดยมี เงื่อนไขสำหรับจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ 4 ประการ ได้แก่
1) มีโรคฟันผุสูง
2) มีปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำบริโภคต่ำกว่ามาตรฐาน คือ น้อยกว่า 0.3 ส่วนในล้านส่วน (ppm) และยังไม่มีการใช้ฟลูออไรด์เสริมอื่น ๆ ในระดับชุมชน
3) มีโรงนมที่สามารถผลิตนมฟลูออไรด์ พาสเจอร์ไรซ์ขนาดถุงละ 200 มิลลิลิตร ปริมาณฟลูออไรด์ 0.5 มิลลิกรัม/ถุง ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ และจัดส่งไปยังโรงเรียน ในพื้นที่ได้
4) มีทันตบุคลากรในพื้นที่ร่วมดำเนินการ รวมทั้งติดตาม กำกับเพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย โดยโครงการ ส่วนพระองค์ สวนจิตรลดาได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตนมฟลูออไรด์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย และในปัจจุบันยังเป็นเป็นหน่วยงาน ฝึกอบรมด้านเทคนิคการผลิตนมฟลูออไรด์แก่โรงนมอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
 
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/30 พฤษภาคม 2557
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขยายพื้นที่การดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์โดยในปีนี้เริ่มที่จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดแรก โดยมีเป้าหมายคือ นักเรียนชั้นอนุบาล และประถมศึกษาในจังหวัดตรัง จำนวน 80,000 คนได้ดื่มนมฟลูออไรด์ตั้งแต่เทอมแรก และเล็งขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อให้เด็กไทยมีสุขภาพฟันที่ดี ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ โดยในระยะแรกของการดำเนินงาน เด็กในกรุงเทพมหานครจะได้ดื่มนมฟลูออไรด์ต่อเนื่องเป็นเวลา ๕ ปี ร่วมกับการต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติ จะสามารถลดโรคฟันผุในฟันแท้ได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมฟลูออไรด์ถึงร้อยละ ๓๔.๔ และไม่พบผลเสียเรื่องฟันตกกระ ต่อมาได้ ขยาย ไปในส่วนภูมิภาค ๗ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สระแก้ว ชลบุรี กระบี่ และพัทลุง ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมามีเด็กกว่าหนึ่งล้านคน ได้ดื่มนมฟลูออไรด์ ที่ผลิตโดยโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา และโรงนมอื่นๆ รวม ๒๐ แห่งทั่วประเทศที่ได้รับอนุญาตการผลิตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ทันตแพทย์สุธา กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ได้ขยายโครงการไปยังจังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรก เพราะจากผลการสำรวจสภาวะ ทันตสุขภาพของจังหวัดตรังในปี 2556 พบว่า เด็กอายุ 3 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 53.4 เด็กอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 45.1 มีระดับฟลูออไรด์ในน้ำบริโภคของชุมชนน้อยกว่า 0.3 ส่วนในล้านส่วน และยังไม่มีการใช้ฟลูออไรด์เสริมในระดับชุมชน มีความเป็นไปได้ ในด้านการผลิต และจัดส่งนมฟลูออไรด์จากโรงนม 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) และสหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย จำกัด มีทันตบุคลากรในจังหวัดตรัง ร่วมดำเนินการ นอกจากนี้ จะขยายการดำเนินงานเพิ่มอีก 3 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อให้เด็กในจังหวัดดังกล่าวได้ดื่มนมฟลูออไรด์ที่ส่งผลให้มีสุขภาพฟัน ที่ดี \\ทั้งนี้ นักเรียนชั้นอนุบาล และประถมศึกษาในจังหวัดตรัง จำนวน 80,000 คน จะได้ดื่มนมฟลูออไรด์ตั้งแต่เทอมแรกของ ปีการศึกษา 2557 พร้อมกับการติดตาม กำกับคุณภาพและความปลอดภัยโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง และสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัยเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ นอกจากนี้ กรมอนามัยยังมีนโยบายสนับสนุนการดื่มนมพาสเจอไรซ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็ก พร้อมกับส่งเสริมการดื่มนมฟลูออไรด์เพื่อลดโรคฟันผุ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาโครงการนมฟลูออไรด์ เพื่อลดโรคฟันผุ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาโครงการนมฟลูออไรด์ประเทศต่าง ๆ อาทิเช่น ประเทศเกาหลี มาเลเซีย บรูไน และมองโกเลีย โดยมีโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดาเป็นหน่วยงานฝึกอบรมด้านเทคนิคการผลิตนมฟลูออไรด์ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย ทันตแพทย์สุธา กล่าว รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทย ได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2543 ภายใต้การสนับสนุนด้านวิชาการจากองค์การอนามัยโลก และการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากมูลนิธิ The Borrow Foundation ประเทศอังกฤษ ในรูปแบบของการเสริมฟลูออไรด์ผ่านทางนมซึ่งอยู่ในโครงการอาหารเสริม(นม) โรงเรียนเพื่อป้องกันฟันผุ โดยมี เงื่อนไขสำหรับจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ 4 ประการ ได้แก่1) มีโรคฟันผุสูง2) มีปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำบริโภคต่ำกว่ามาตรฐาน คือ น้อยกว่า 0.3 ส่วนในล้านส่วน (ppm) และยังไม่มีการใช้ฟลูออไรด์เสริมอื่น ๆ ในระดับชุมชน3) มีโรงนมที่สามารถผลิตนมฟลูออไรด์ พาสเจอร์ไรซ์ขนาดถุงละ 200 มิลลิลิตร ปริมาณฟลูออไรด์ 0.5 มิลลิกรัม/ถุง ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ และจัดส่งไปยังโรงเรียน ในพื้นที่ได้4) มีทันตบุคลากรในพื้นที่ร่วมดำเนินการ รวมทั้งติดตาม กำกับเพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย โดยโครงการ ส่วนพระองค์ สวนจิตรลดาได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตนมฟลูออไรด์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย และในปัจจุบันยังเป็นเป็นหน่วยงาน ฝึกอบรมด้านเทคนิคการผลิตนมฟลูออไรด์แก่โรงนมอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/30 พฤษภาคม 2557

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน