คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัย เปิดตัวคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ เคาะประตูชวนแม่มือใหม่ฝากท้องเร็วขึ้น"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

04.04.2557
1
0
แชร์
04
เมษายน
2557

ข่าวแจก "กรมอนามัย เปิดตัวคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ เคาะประตูชวนแม่มือใหม่ฝากท้องเร็วขึ้น"

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวมหกรรมคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานคร ตามโครงการ ฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ด้วยบัตรสุขภาพแม่และเด็ก เพื่อกระตุ้นให้หญิงตั้งครรภ์ฝากท้องเร็วขึ้น และสร้างความเท่าเทียม ในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์หลังคลอด และสร้างเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิดให้สมวัย 
        วันนี้ (4 เมษายน 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในงานมหกรรมคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานคร ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีโครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ เพื่อกระตุ้นให้หญิงตั้งครรภ์ฝากท้องเร็วขึ้น และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแต่ยังพบปัญหาว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ทำงานในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการไม่มีเวลาที่จะไปฝากท้อง ทำให้ไปฝากท้องช้าและไม่ไปฝากท้องตามนัด กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย จึงจัดคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ขึ้นโดยมาให้บริการในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังเป็นแห่งแรก จากนั้นจะกระจายไปสถานประกอบการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการฝากท้องได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ซึ่งบริการที่ได้รับจะมีคุณภาพเหมือนกับที่ไปรับบริการในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข 
        ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า โครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ของกระทรวงสาธารณสุขเริ่มตั้งแต่วันที่14 สิงหาคม 2556 เพื่อสอดรับกับโครงการเพื่อเด็กและสตรี (Every Women Every Child) ขององค์การสหประชาชาติเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของสตรีและเด็กทั่วโลกลงให้ได้จำนวน 16 ล้านคน ภายในปี 2558 โดยการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการแม่และเด็ก และส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ไทยทุกคนเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ตามนโยบายแม่คลอด ลูกรอด ปลอดภัย เท่าเทียมทั่วถึง ให้หญิงตั้งครรภ์และบุตรได้รับการดูแลตามมาตรฐาน คือ การฝากครรภ์คุณภาพ ต้องครบ 5 ครั้งตามมาตรฐานสากล เริ่มครั้งที่ 1 อายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ และ 18, 26, 32 และ 38 สัปดาห์ มีระบบห้องคลอด การบริบาลทารกแรกเกิด และการดูแลสุขภาพเด็กแรกเกิดจนถึง 5 ขวบ เพื่อให้เด็กเติบโตสมวัย ได้รับวัคซีนครบถ้วน มีไอคิวมากกว่า 100 ซึ่งหมายความว่าเด็กจะมีอายุสมองมากกว่าอายุจริง และมีอีคิวตามมาตรฐาน
        ทั้งนี้ แม้สถานการณ์ด้านสุขภาพแม่และเด็กในประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังพบปัญหาอัตราการฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ครั้งแรก หรือฝากท้องเมื่ออายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ เพียงร้อยละ 53 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ และพัฒนาการของเด็กหลายด้าน อาทิ การขาดสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ยังคงสูงที่ร้อยละ 52.5 ภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ที่ร้อยละ 18.4 ทำให้หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการตกเลือดหลังคลอด การฝากท้องช้ายังทำให้ทารกแรกเกิดเสี่ยงต่อการเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ดาวน์ซินโดรม ภาวะพร่องธัยรอยด์แต่กำเนิด น้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 2,500 กรัม เรียนรู้ช้ากว่าปกติ หากหญิงตั้งครรภ์เข้ารับบริการฝากท้องเร็วขึ้น ทั้งแม่และเด็กจะได้การดูแลสุขภาพตามมาตรฐานโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ คลอด หลังคลอด และคลินิกสุขภาพเด็กดี รวมทั้งได้รับความรู้ด้านต่าง ๆ อาทิ ข้อปฏิบัติสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ โภชนาการที่เหมาะสม การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การสร้างเสริมพัฒนาการเด็กสมวัย และตารางการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค เป็นต้น? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 4 เมษายน 2557
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวมหกรรมคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานคร ตามโครงการ ฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ด้วยบัตรสุขภาพแม่และเด็ก เพื่อกระตุ้นให้หญิงตั้งครรภ์ฝากท้องเร็วขึ้น และสร้างความเท่าเทียม ในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์หลังคลอด และสร้างเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิดให้สมวัย วันนี้ (4 เมษายน 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในงานมหกรรมคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานคร ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีโครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ เพื่อกระตุ้นให้หญิงตั้งครรภ์ฝากท้องเร็วขึ้น และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแต่ยังพบปัญหาว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ทำงานในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการไม่มีเวลาที่จะไปฝากท้อง ทำให้ไปฝากท้องช้าและไม่ไปฝากท้องตามนัด กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย จึงจัดคาราวานฝากท้องเคลื่อนที่ขึ้นโดยมาให้บริการในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังเป็นแห่งแรก จากนั้นจะกระจายไปสถานประกอบการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการฝากท้องได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ซึ่งบริการที่ได้รับจะมีคุณภาพเหมือนกับที่ไปรับบริการในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า โครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ของกระทรวงสาธารณสุขเริ่มตั้งแต่วันที่14 สิงหาคม 2556 เพื่อสอดรับกับโครงการเพื่อเด็กและสตรี (Every Women Every Child) ขององค์การสหประชาชาติเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของสตรีและเด็กทั่วโลกลงให้ได้จำนวน 16 ล้านคน ภายในปี 2558 โดยการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการแม่และเด็ก และส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ไทยทุกคนเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ตามนโยบายแม่คลอด ลูกรอด ปลอดภัย เท่าเทียมทั่วถึง ให้หญิงตั้งครรภ์และบุตรได้รับการดูแลตามมาตรฐาน คือ การฝากครรภ์คุณภาพ ต้องครบ 5 ครั้งตามมาตรฐานสากล เริ่มครั้งที่ 1 อายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ และ 18, 26, 32 และ 38 สัปดาห์ มีระบบห้องคลอด การบริบาลทารกแรกเกิด และการดูแลสุขภาพเด็กแรกเกิดจนถึง 5 ขวบ เพื่อให้เด็กเติบโตสมวัย ได้รับวัคซีนครบถ้วน มีไอคิวมากกว่า 100 ซึ่งหมายความว่าเด็กจะมีอายุสมองมากกว่าอายุจริง และมีอีคิวตามมาตรฐาน \\ทั้งนี้ แม้สถานการณ์ด้านสุขภาพแม่และเด็กในประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังพบปัญหาอัตราการฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ครั้งแรก หรือฝากท้องเมื่ออายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ เพียงร้อยละ 53 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ และพัฒนาการของเด็กหลายด้าน อาทิ การขาดสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ยังคงสูงที่ร้อยละ 52.5 ภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ที่ร้อยละ 18.4 ทำให้หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการตกเลือดหลังคลอด การฝากท้องช้ายังทำให้ทารกแรกเกิดเสี่ยงต่อการเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ดาวน์ซินโดรม ภาวะพร่องธัยรอยด์แต่กำเนิด น้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 2,500 กรัม เรียนรู้ช้ากว่าปกติ หากหญิงตั้งครรภ์เข้ารับบริการฝากท้องเร็วขึ้น ทั้งแม่และเด็กจะได้การดูแลสุขภาพตามมาตรฐานโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ คลอด หลังคลอด และคลินิกสุขภาพเด็กดี รวมทั้งได้รับความรู้ด้านต่าง ๆ อาทิ ข้อปฏิบัติสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ โภชนาการที่เหมาะสม การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การสร้างเสริมพัฒนาการเด็กสมวัย และตารางการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค เป็นต้น อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด ***สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 4 เมษายน 2557

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน