คุณกำลังมองหาอะไร?

รบรอบ 62 ปี กรมอนามัยเดินหน้า 8 โครงการหลัก สร้างสุขภาพดีด้วยตนเอง

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

12.03.2557
0
0
แชร์
12
มีนาคม
2557

ครบรอบ 62 ปี กรมอนามัยเดินหน้า 8 โครงการหลัก สร้างสุขภาพดีด้วยตนเอง

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมวันสถาปนากรมอนามัยครบ 62 ปี เดินหน้าดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมด้วย 8 โครงการหลัก โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันและลดการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ให้สอดคล้องกับแนวคิดสุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่?(Good Health Starts Here) ตามนโยบายของกระทรวง     สาธารณสุข
        วันนี้ (12 มีนาคม 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังการจัดกิจกรรมวันสถาปนากรมอนามัยครบ 62 ปีว่า วันที่ 12มีนาคมของทุกปีเป็นวันสถาปนากรมอนามัย โดยในปี 2557นี้ ครบปีที่ 62  กรมอนามัยได้ดำเนินบทบาทสำคัญในการเป็นองค์กรหลักของประเทศด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมาย เพื่อให้คนไทยมีภาวะสุขภาพดีอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีภารกิจหลักใน 3ด้าน ได้แก่ 1)ด้านการ   ส่งเสริมสุขภาพ?ซึ่งจะดำเนินการในทุกกลุ่มวัย เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องโตเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยชรา จนกระทั่ง   เสียชีวิต โดยจะมีหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาการและบริการส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้ประชาชน     ทุกเพศ ทุกวัย มีสุขภาพที่ดีและมีความสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา 2)ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม? ที่มุ่งเน้นพัฒนาสุขภาพหรือสุขภาวะที่คำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จะมีหน้าที่ในการพัฒนาหารูปแบบ หากติกาและสร้างเครือข่ายตรวจสอบ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน 3)ด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ? ของประชาชนให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยใช้หลัก 3 อ.2 ส. และ 1 ฟ. ได้แก่ 1. อ.อาหาร กินอาหารที่มีสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ที่มีกากใยสูงๆ ลดหวาน มัน เค็ม อาหารรสจัด อาหารหมักดอง กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารค้างคืน
2. อ.ออกกำลังกาย ออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที
3. อ.อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ หาวิธีคลายเครียดหรือทำกิจกรรม เช่น ปลูกต้นไม้ เล่นดนตรี วาดภาพ ท่องเที่ยว เป็นต้น รวมทั้งควรพักผ่อนให้พอเพียงวันละ 6-8 ชั่วโมง อีก 2 ส คือ ส1.ไม่สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่มีสารสำคัญที่ทำให้เกิดการเสพติด คือ นิโคติน และ ส.2 คืองดดื่มสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ส่วน ฟ.คือ การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำ แปรงฟันอย่างน้อย 2ครั้ง เช้าและก่อนนอน               
          ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ในอนาคต กรมอนามัยจะเดินหน้าดำเนินงานใน 8 โครงการหลักได้แก่
1) โครงการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กคุณภาพเพื่อการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้เด็กปฐมวัยได้รับการเลี้ยงดูให้มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง เจริญเติบโตตามเกณฑ์ มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย
2) โครงการเมนูอ่อนหวาน อ่อนเค็ม เติมเต็มสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มี เมนูอ่อนหวาน อ่อนเค็ม เติมเต็มสุขภาพ?ในร้านอาหาร โรงพยาบาล โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ และสถานประกอบอาหารต่างๆ เน้นสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน เกิดความตระหนักใน การเลือกบริโภคอาหารลดหวานและเค็ม และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
3) โครงการ กินผัก 5สี ดี 5 อย่าง รณรงค์สร้างกระแสทานผักให้ครบ 5 สี และเพียงพอ ชุมชนมีการสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริโภคผักที่ปลอดภัยและถูกหลักโภชนาการ ประชาชนเกิดการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสม
4) โครงการรณรงค์ภาคีร่วมใจ เด็กไทยปลอดภัย ไม่จมน้ำ ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้มีความรู้และทักษะในการป้องกันการจมน้ำ สร้างข้อตกลงความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ป้องกันการจมน้ำในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในระดับชาติและระดับชุมชน
5) โครงการเครือข่ายวัยรุ่นอาสาวางแผนครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นมีความรู้ เกิดความตระหนักและใช้บริการวิธีคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และลดอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ พัฒนาศักยภาพแกนนำวัยรุ่นให้สามารถให้การปรึกษาเกี่ยวกับเพศศึกษา
6) โครงการ        ร้านอาหารไทย ปลอดภัย สุขภาพดี เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทยให้ได้มาตรฐานครบทุกด้าน ทั้งด้านความสะอาด ปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อน มีคุณค่าทางโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค โดยจะมีการนำร่องในพื้นที่ 12 จังหวัด เพื่อให้เป็นต้นแบบ ร้านอาหารไทย ปลอดภัย สุขภาพดี จังหวัดละ 1 แห่ง
7) โครงการน้ำแข็งอนามัย คนไทยปลอดภัย ปลอดโรค โดยจะรณรงค์ให้ผู้ประกอบการด้านอาหาร มีการจำหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค และรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ในการเลือกซื้อและเลือกบริโภคน้ำแข็งที่สะอาด ปลอดภัย และ
8) โครงการพัฒนาสุขาภิบาลที่พักอาศัยและสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติในการ พัฒนาที่พักอาศัย และการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนและชุมชน ลดการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพกับผู้พักอาศัยและปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทั้งนี้ การดำเนินงานในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 63นี้ จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม    โดยให้ประชาชนตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันและลดการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ด้วยการเริ่มต้นจากการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการสร้างสุขภาพที่ดีให้เกิดขึ้นด้วยตนเอง? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมวันสถาปนากรมอนามัยครบ 62 ปี เดินหน้าดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมด้วย 8 โครงการหลัก โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันและลดการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ให้สอดคล้องกับแนวคิด\\สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่(Good Health Starts Here) ตามนโยบายของกระทรวง สาธารณสุข วันนี้ (12 มีนาคม 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังการจัดกิจกรรมวันสถาปนากรมอนามัยครบ 62 ปีว่า วันที่ 12มีนาคมของทุกปีเป็นวันสถาปนากรมอนามัย โดยในปี 2557นี้ ครบปีที่ 62 กรมอนามัยได้ดำเนินบทบาทสำคัญในการเป็นองค์กรหลักของประเทศด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมาย เพื่อให้คนไทยมีภาวะสุขภาพดีอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีภารกิจหลักใน 3ด้าน ได้แก่ 1)\\ด้านการ ส่งเสริมสุขภาพซึ่งจะดำเนินการในทุกกลุ่มวัย เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องโตเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยชรา จนกระทั่ง เสียชีวิต โดยจะมีหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาการและบริการส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้ประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย มีสุขภาพที่ดีและมีความสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา 2)\\ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นพัฒนาสุขภาพหรือสุขภาวะที่คำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จะมีหน้าที่ในการพัฒนาหารูปแบบ หากติกาและสร้างเครือข่ายตรวจสอบ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน 3)\\ด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ของประชาชนให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยใช้หลัก 3 อ.2 ส. และ 1 ฟ. ได้แก่ 1. อ.อาหาร กินอาหารที่มีสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ที่มีกากใยสูงๆ ลดหวาน มัน เค็ม อาหารรสจัด อาหารหมักดอง กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารค้างคืน2. อ.ออกกำลังกาย ออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที3. อ.อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ หาวิธีคลายเครียดหรือทำกิจกรรม เช่น ปลูกต้นไม้ เล่นดนตรี วาดภาพ ท่องเที่ยว เป็นต้น รวมทั้งควรพักผ่อนให้พอเพียงวันละ 6-8 ชั่วโมง อีก 2 ส คือ ส1.ไม่สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่มีสารสำคัญที่ทำให้เกิดการเสพติด คือ นิโคติน และ ส.2 คืองดดื่มสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ส่วน ฟ.คือ การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำ แปรงฟันอย่างน้อย 2ครั้ง เช้าและก่อนนอน ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ในอนาคต กรมอนามัยจะเดินหน้าดำเนินงานใน 8 โครงการหลักได้แก่1) โครงการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กคุณภาพเพื่อการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้เด็กปฐมวัยได้รับการเลี้ยงดูให้มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง เจริญเติบโตตามเกณฑ์ มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย2) โครงการเมนูอ่อนหวาน อ่อนเค็ม เติมเต็มสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มี \\เมนูอ่อนหวาน อ่อนเค็ม เติมเต็มสุขภาพในร้านอาหาร โรงพยาบาล โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ และสถานประกอบอาหารต่างๆ เน้นสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน เกิดความตระหนักใน การเลือกบริโภคอาหารลดหวานและเค็ม และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเหมาะสม3) โครงการ กินผัก 5สี ดี 5 อย่าง รณรงค์สร้างกระแสทานผักให้ครบ 5 สี และเพียงพอ ชุมชนมีการสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริโภคผักที่ปลอดภัยและถูกหลักโภชนาการ ประชาชนเกิดการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสม4) โครงการรณรงค์ภาคีร่วมใจ เด็กไทยปลอดภัย ไม่จมน้ำ ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้มีความรู้และทักษะในการป้องกันการจมน้ำ สร้างข้อตกลงความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ป้องกันการจมน้ำในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในระดับชาติและระดับชุมชน5) โครงการเครือข่ายวัยรุ่นอาสาวางแผนครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นมีความรู้ เกิดความตระหนักและใช้บริการวิธีคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และลดอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ พัฒนาศักยภาพแกนนำวัยรุ่นให้สามารถให้การปรึกษาเกี่ยวกับเพศศึกษา6) โครงการ ร้านอาหารไทย ปลอดภัย สุขภาพดี เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทยให้ได้มาตรฐานครบทุกด้าน ทั้งด้านความสะอาด ปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อน มีคุณค่าทางโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค โดยจะมีการนำร่องในพื้นที่ 12 จังหวัด เพื่อให้เป็นต้นแบบ ร้านอาหารไทย ปลอดภัย สุขภาพดี จังหวัดละ 1 แห่ง7) โครงการน้ำแข็งอนามัย คนไทยปลอดภัย ปลอดโรค โดยจะรณรงค์ให้ผู้ประกอบการด้านอาหาร มีการจำหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค และรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ในการเลือกซื้อและเลือกบริโภคน้ำแข็งที่สะอาด ปลอดภัย และ8) โครงการพัฒนาสุขาภิบาลที่พักอาศัยและสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติในการ พัฒนาที่พักอาศัย และการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนและชุมชน ลดการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพกับผู้พักอาศัยและปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมในชุมชน \\ทั้งนี้ การดำเนินงานในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 63นี้ จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยให้ประชาชนตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันและลดการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ด้วยการเริ่มต้นจากการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการสร้างสุขภาพที่ดีให้เกิดขึ้นด้วยตนเอง อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน