ข่าวแจก "กรมอนามัย พัฒนาส้วมรร.ทุรกันดารและรร.ตชด.พื้นที่เขต 11 เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ชูส้วม จ.ชุมพร สุราษฎร์ฯ นำร่องผ่านเกณฑ์ HAS"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม สุดยอดส้วมและสถานบริการลดโลกร้อน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งนำร่องการด้วยการพัฒนาส้วมสาธารณะในโรงเรียนพื้นที่ทุรกันดาร และ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน พื้นที่จังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี จำนวน 4 แห่ง เพื่อปรับปรุงและพัฒนาส้วม ให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS (สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย) พร้อมมอบรางวัลหน่วยงานที่มีการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมดีเด่นในระดับเขต ประกอบด้วยสุดยอดส้วมแห่งปีระดับเขต ปี 2556 จำนวน 16 แห่ง สถานที่ทำงานน่าอยู่น่าทำงาน 16 แห่ง ตลาดดีวิถีไทย จำนวน 5 แห่ง และสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบลดโลกร้อน จำนวน 1 แห่ง
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบโล่และประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมดีเด่น ณ จังหวัดชุมพร ว่า เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงกำหนดให้มีโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีขึ้น เพื่อปรับปรุงและสร้างส้วมให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร 60 แห่ง จำนวน 600 ห้องส้วม ให้ส้วมโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารสะอาดได้มาตรฐาน รวมทั้งสร้างอนามัยพื้นฐานให้กับเด็กและเยาวชนให้ดีขึ้น ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดชุมพรในครั้งนี้ เพื่อร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนาการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพใน โรงเรียนถิ่นทุรกันดาร โดยนำร่องที่การพัฒนาส้วมสาธารณะในโรงเรียนพื้นที่ทุรกันดาร และ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ซึ่งอยู่ในพื้นที่การดูแลของ ศูนย์อนามัยที่ 11 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดชุมพร 3 แห่ง และ สุราษฎร์ธานี 1 แห่ง ให้ผ่านมาตรฐาน HAS
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดชุมพรถือเป็นจังหวัดต้นแบบการพัฒนาส้วมสาธารณะที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนดำเนินงานพัฒนาส้วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพงษ์ศักดิ์ ฉิ่งสุวรรณโรจน์ ที่มีส่วนช่วยในการชี้แนะแนวทางการพัฒนาส้วมสาธารณะไทยแบบยั่งยืน และเป็นแบบอย่างในการพัฒนาส้วมให้สามารถผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS ในส่วนของสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบลดโลกร้อนนั้น นับเป็นโครงการที่ดีและเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เนื่องจากสถานบริการสาธารณสุขเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน การพัฒนาเป็นต้นแบบลดโลกร้อน ย่อมสามารถขยายแนวคิดนำไปสู่การปฏิบัติที่เข้มแข็งร่วมกับภาคีเครือข่ายและประชาชนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงการรณรงค์สร้างส้วม 100% จนประสบผลสำเร็จ ทำให้ปัจจุบันครัวเรือนไทยมีส้วมถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 98.1 และพัฒนาส้วมสาธารณะไทยจนผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS (สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย) ร้อยละ 66.83 และได้รณรงค์ให้ประชาชนมีความตระหนักถึงพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกต้อง โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งก่อนและหลังการใช้ส้วม ไม่ทิ้งวัสดุอื่น นอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดทุกครั้งหลังการใช้ส้วม เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค อาทิ โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ บิด ไทฟอยด์ และอหิวาตกโรค? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/1 กุมภาพันธ์ 2557
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม สุดยอดส้วมและสถานบริการลดโลกร้อน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งนำร่องการด้วยการพัฒนาส้วมสาธารณะในโรงเรียนพื้นที่ทุรกันดาร และ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน พื้นที่จังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี จำนวน 4 แห่ง เพื่อปรับปรุงและพัฒนาส้วม ให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS (สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย) พร้อมมอบรางวัลหน่วยงานที่มีการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมดีเด่นในระดับเขต ประกอบด้วยสุดยอดส้วมแห่งปีระดับเขต ปี 2556 จำนวน 16 แห่ง สถานที่ทำงานน่าอยู่น่าทำงาน 16 แห่ง ตลาดดีวิถีไทย จำนวน 5 แห่ง และสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบลดโลกร้อน จำนวน 1 แห่ง วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบโล่และประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมดีเด่น ณ จังหวัดชุมพร ว่า เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงกำหนดให้มีโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีขึ้น เพื่อปรับปรุงและสร้างส้วมให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร 60 แห่ง จำนวน 600 ห้องส้วม ให้ส้วมโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารสะอาดได้มาตรฐาน รวมทั้งสร้างอนามัยพื้นฐานให้กับเด็กและเยาวชนให้ดีขึ้น ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดชุมพรในครั้งนี้ เพื่อร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนาการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพใน โรงเรียนถิ่นทุรกันดาร โดยนำร่องที่การพัฒนาส้วมสาธารณะในโรงเรียนพื้นที่ทุรกันดาร และ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ซึ่งอยู่ในพื้นที่การดูแลของ ศูนย์อนามัยที่ 11 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดชุมพร 3 แห่ง และ สุราษฎร์ธานี 1 แห่ง ให้ผ่านมาตรฐาน HAS ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดชุมพรถือเป็นจังหวัดต้นแบบการพัฒนาส้วมสาธารณะที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนดำเนินงานพัฒนาส้วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพงษ์ศักดิ์ ฉิ่งสุวรรณโรจน์ ที่มีส่วนช่วยในการชี้แนะแนวทางการพัฒนาส้วมสาธารณะไทยแบบยั่งยืน และเป็นแบบอย่างในการพัฒนาส้วมให้สามารถผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS ในส่วนของสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบลดโลกร้อนนั้น นับเป็นโครงการที่ดีและเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เนื่องจากสถานบริการสาธารณสุขเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน การพัฒนาเป็นต้นแบบลดโลกร้อน ย่อมสามารถขยายแนวคิดนำไปสู่การปฏิบัติที่เข้มแข็งร่วมกับภาคีเครือข่ายและประชาชนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน \\ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงการรณรงค์สร้างส้วม 100% จนประสบผลสำเร็จ ทำให้ปัจจุบันครัวเรือนไทยมีส้วมถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 98.1 และพัฒนาส้วมสาธารณะไทยจนผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS (สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย) ร้อยละ 66.83 และได้รณรงค์ให้ประชาชนมีความตระหนักถึงพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกต้อง โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งก่อนและหลังการใช้ส้วม ไม่ทิ้งวัสดุอื่น นอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดทุกครั้งหลังการใช้ส้วม เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค อาทิ โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ บิด ไทฟอยด์ และอหิวาตกโรค อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/1 กุมภาพันธ์ 2557