ข่า
วแจก "กรมอนามัย รณรงค์เลือกซื้อ บริโภค อาหารสะอาดปลอดภัย รับตรุษจีนเมืองปากน้ำโพ"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
29
มกราคม
2557
ข่าวแจก "กรมอนามัย รณรงค์เลือกซื้อ บริโภค อาหารสะอาดปลอดภัย รับตรุษจีนเมืองปากน้ำโพ"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์อาหารสะอาด ปลอดภัยในเทศกาลตรุษจีนเมืองปากน้ำโพ นครสวรรค์ พร้อมพัฒนาตลาดสด น่าซื้อ ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน (Clean food Good Taste) ของกรมอนามัย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและปลอดภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันนี้ (28 มกราคม 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่รณรงค์อาหารสะอาด ปลอดภัย ในเทศกาลตรุษจีน ณ จังหวัดนครสวรรค์ ว่า จังหวัดนครสวรรค์เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีประชาชน เชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การเฝ้าระวังในเรื่องของความปลอดภัยด้านอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าทั้งในตลาดค้าส่ง ตลาดสด ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารจะต้องมีความตระหนักด้านสุขลักษณะ ความสะอาด ส่วนผู้บริโภคต้องมีความรู้ในการเลือกซื้อสัตว์ปีกประเภทเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ เนื้อแน่น สะอาด ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีจ้ำเลือด ไม่มีการทาสีตามตัว ไม่มีกลิ่นเหม็น ต้องปรุงให้สุกก่อนกินด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 74 องศาเซลเซียส ไม่ควรกินแบบกึ่งสุก กึ่งดิบ สำหรับเนื้อหมูต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เมื่อกดดูเนื้อจะนุ่มไม่กระด้าง และต้องไม่มีเม็ดสาคูหรือตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด และต้องปรุงให้สุกด้วยความร้อนที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 77 องศาเซลเซียส ส่วนไข่ต้องเลือกไข่ที่สด ใหม่ เปลือกไข่ไม่แตกหรือบุบร้าว ไม่มีมูลติด เพราะสาเหตุที่มีเชื้อปนเปื้อนในไข่พบว่าเกิดจากการที่เปลือกไข่มีเลือดหรืออุจจาระปนเปื้อนในขณะที่ทำการเก็บไข่ เป็นผลจากการเลี้ยงไก่ในที่ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ เพื่อความมั่นใจให้เลือกซื้อจากตลาดสดที่ได้รับการประเมินเป็นตลาดสด น่าซื้อของกรมอนามัย
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การเลือกอาหารหมักดองที่บรรจุกระป๋อง ก็ต้องสังเกตเครื่องหมาย อย. และอ่านฉลากข้างกระป๋องที่มีชื่อ สถานที่ผลิต วัน เดือน ปีที่ผลิตและหมดอายุ ชื่อปริมาณวัตถุเจือปนในอาหาร น้ำหนักสุทธิ และลักษณะกระป๋องต้องไม่บวม ไม่บุบ ไม่เป็นสนิม ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยแตกรั่ว เพราะจะทำให้อาหารปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสี กลิ่น รสและคุณค่าของอาหาร
ทั้งนี้ การปรุงประกอบอาหารในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต้องปรุงให้สุกทั่วทั้งชิ้น ด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 77 องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการทำลายเชื้อโรคประเภทแบคทีเรีย ไวรัส พยาธิใบไม้ในตับ พยาธิตัวตืดที่อยู่ในเนื้อสัตว์ และก่อนนำมารับประทานอาหารควรอุ่นให้สุกอีกครั้ง สำหรับการเก็บรักษาวัตถุดิบ ประเภทไก่ หมู จะต้องเก็บในภาชนะที่สะอาดแยกเป็นสัดส่วนเฉพาะ และต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส ส่วนอาหารในแต่ละมื้อควรเลี่ยงอาหารประเภททอดด้วยน้ำมันมากเกินไป ลดอาหารหวาน มัน เค็ม แต่ควรเพิ่มผักผลไม้สด หลังมื้ออาหารทุกครั้ง เลือกใช้เครื่องปรุงรส เช่น ซีอิ๊ว น้ำตาล น้ำปลาที่มีเครื่องหมาย อย.หรือ มอก.รับรอง แต่สำหรับผู้ที่นิยมรับประทานขนมเซ่นไหว้ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งและน้ำตาลจำเป็นต้องจำกัดปริมาณในการรับประทาน เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไปด้วย?
ดร.นพ.พรเทพ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า กรณีที่เลือกซื้ออาหารตรุษจีนปรุงสำเร็จ ควรเลือกซื้อจากร้านอาหารหรือแผงลอยจำหน่ายอาหารที่ได้มาตรฐาน มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี อาทิ การใช้ที่คีบหยิบจับอาหารแทนมือ การแต่งกายต้องสะอาดโดยสวมหมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อน หรือเลือกจากร้านที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean food Good Taste) จากกรมอนามัยก็จะเชื่อมั่นได้ในเรื่องความปลอดภัย
ทางด้าน นายแพทย์ชาญชัย พิณเมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์ กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์มีตลาดสด 14 แห่ง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ จำนวน 12 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85.71 แบ่งเป็นระดับดีมาก 4 แห่ง และระดับดี 8 แห่ง มีร้านอาหารและแผงลอย จำนวน 2,475 แผง ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 2,233 แผง คิดเป็นร้อยละ 90.22 และจากการสุ่มตรวจเพื่อเฝ้าระวังแบคทีเรียในอาหาร ภาชนะ และมือผู้สัมผัสอาหารในร้านอาหาร แผงลอย พบว่า อาหารจำนวน 1,953 ตัวอย่าง ปนเปื้อน 149 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 7.63 ภาชนะจำนวน 1,503 ตัวอย่าง ปนเปื้อน 116 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 7.72 มือผู้สัมผัสอาหารจำนวน 835 ตัวอย่าง ปนเปื้อน 57 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 6.83
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ผู้ปรุงประกอบอาหารเพื่อจำหน่ายควรยึดหลัก 2 ประการ คือ 1) สะอาดปลอดภัย มีการปรุงประกอบอาหารให้ถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร โดยเน้นดูแลความสะอาดตั้งแต่กระบวนการเตรียมวัตถุดิบ การล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุง โดยเฉพาะผักที่นำมาใช้อาหารต้องมีการล้างให้สะอาดเพื่อล้างสารเคมีที่อาจปนเปื้อนมาตั้งแต่ การเพาะปลูก วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหาร ต้องมีคุณภาพดี มาจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และ 2) ถูกหลักโภชนาการ คือ ปรุงอาหารด้วยการยำ ต้ม นึ่ง ลดอาหารประเภทผัด ทอด และอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด เลือกกินผักและผลไม้ให้ครบ 5 สี เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการที่ตรงกับความต้องการของร่างกาย? ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์ กล่าว
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 28 มกราคม 2557
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์อาหารสะอาด ปลอดภัยในเทศกาลตรุษจีนเมืองปากน้ำโพ นครสวรรค์ พร้อมพัฒนาตลาดสด น่าซื้อ ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน (Clean food Good Taste) ของกรมอนามัย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและปลอดภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน วันนี้ (28 มกราคม 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่รณรงค์อาหารสะอาด ปลอดภัย ในเทศกาลตรุษจีน ณ จังหวัดนครสวรรค์ ว่า จังหวัดนครสวรรค์เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีประชาชน เชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การเฝ้าระวังในเรื่องของความปลอดภัยด้านอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าทั้งในตลาดค้าส่ง ตลาดสด ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารจะต้องมีความตระหนักด้านสุขลักษณะ ความสะอาด ส่วนผู้บริโภคต้องมีความรู้ในการเลือกซื้อสัตว์ปีกประเภทเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ เนื้อแน่น สะอาด ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีจ้ำเลือด ไม่มีการทาสีตามตัว ไม่มีกลิ่นเหม็น ต้องปรุงให้สุกก่อนกินด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 74 องศาเซลเซียส ไม่ควรกินแบบกึ่งสุก กึ่งดิบ สำหรับเนื้อหมูต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เมื่อกดดูเนื้อจะนุ่มไม่กระด้าง และต้องไม่มีเม็ดสาคูหรือตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด และต้องปรุงให้สุกด้วยความร้อนที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 77 องศาเซลเซียส ส่วนไข่ต้องเลือกไข่ที่สด ใหม่ เปลือกไข่ไม่แตกหรือบุบร้าว ไม่มีมูลติด เพราะสาเหตุที่มีเชื้อปนเปื้อนในไข่พบว่าเกิดจากการที่เปลือกไข่มีเลือดหรืออุจจาระปนเปื้อนในขณะที่ทำการเก็บไข่ เป็นผลจากการเลี้ยงไก่ในที่ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ เพื่อความมั่นใจให้เลือกซื้อจากตลาดสดที่ได้รับการประเมินเป็นตลาดสด น่าซื้อของกรมอนามัย ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การเลือกอาหารหมักดองที่บรรจุกระป๋อง ก็ต้องสังเกตเครื่องหมาย อย. และอ่านฉลากข้างกระป๋องที่มีชื่อ สถานที่ผลิต วัน เดือน ปีที่ผลิตและหมดอายุ ชื่อปริมาณวัตถุเจือปนในอาหาร น้ำหนักสุทธิ และลักษณะกระป๋องต้องไม่บวม ไม่บุบ ไม่เป็นสนิม ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยแตกรั่ว เพราะจะทำให้อาหารปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสี กลิ่น รสและคุณค่าของอาหาร \\ทั้งนี้ การปรุงประกอบอาหารในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต้องปรุงให้สุกทั่วทั้งชิ้น ด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 77 องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการทำลายเชื้อโรคประเภทแบคทีเรีย ไวรัส พยาธิใบไม้ในตับ พยาธิตัวตืดที่อยู่ในเนื้อสัตว์ และก่อนนำมารับประทานอาหารควรอุ่นให้สุกอีกครั้ง สำหรับการเก็บรักษาวัตถุดิบ ประเภทไก่ หมู จะต้องเก็บในภาชนะที่สะอาดแยกเป็นสัดส่วนเฉพาะ และต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส ส่วนอาหารในแต่ละมื้อควรเลี่ยงอาหารประเภททอดด้วยน้ำมันมากเกินไป ลดอาหารหวาน มัน เค็ม แต่ควรเพิ่มผักผลไม้สด หลังมื้ออาหารทุกครั้ง เลือกใช้เครื่องปรุงรส เช่น ซีอิ๊ว น้ำตาล น้ำปลาที่มีเครื่องหมาย อย.หรือ มอก.รับรอง แต่สำหรับผู้ที่นิยมรับประทานขนมเซ่นไหว้ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งและน้ำตาลจำเป็นต้องจำกัดปริมาณในการรับประทาน เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไปด้วย ดร.นพ.พรเทพ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า กรณีที่เลือกซื้ออาหารตรุษจีนปรุงสำเร็จ ควรเลือกซื้อจากร้านอาหารหรือแผงลอยจำหน่ายอาหารที่ได้มาตรฐาน มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี อาทิ การใช้ที่คีบหยิบจับอาหารแทนมือ การแต่งกายต้องสะอาดโดยสวมหมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อน หรือเลือกจากร้านที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean food Good Taste) จากกรมอนามัยก็จะเชื่อมั่นได้ในเรื่องความปลอดภัย ทางด้าน นายแพทย์ชาญชัย พิณเมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์ กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์มีตลาดสด 14 แห่ง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ จำนวน 12 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85.71 แบ่งเป็นระดับดีมาก 4 แห่ง และระดับดี 8 แห่ง มีร้านอาหารและแผงลอย จำนวน 2,475 แผง ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 2,233 แผง คิดเป็นร้อยละ 90.22 และจากการสุ่มตรวจเพื่อเฝ้าระวังแบคทีเรียในอาหาร ภาชนะ และมือผู้สัมผัสอาหารในร้านอาหาร แผงลอย พบว่า อาหารจำนวน 1,953 ตัวอย่าง ปนเปื้อน 149 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 7.63 ภาชนะจำนวน 1,503 ตัวอย่าง ปนเปื้อน 116 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 7.72 มือผู้สัมผัสอาหารจำนวน 835 ตัวอย่าง ปนเปื้อน 57 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 6.83 \\ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ผู้ปรุงประกอบอาหารเพื่อจำหน่ายควรยึดหลัก 2 ประการ คือ 1) สะอาดปลอดภัย มีการปรุงประกอบอาหารให้ถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร โดยเน้นดูแลความสะอาดตั้งแต่กระบวนการเตรียมวัตถุดิบ การล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุง โดยเฉพาะผักที่นำมาใช้อาหารต้องมีการล้างให้สะอาดเพื่อล้างสารเคมีที่อาจปนเปื้อนมาตั้งแต่ การเพาะปลูก วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหาร ต้องมีคุณภาพดี มาจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และ 2) ถูกหลักโภชนาการ คือ ปรุงอาหารด้วยการยำ ต้ม นึ่ง ลดอาหารประเภทผัด ทอด และอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด เลือกกินผักและผลไม้ให้ครบ 5 สี เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการที่ตรงกับความต้องการของร่างกาย ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์ กล่าว *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 28 มกราคม 2557